การไปเที่ยวครั้งนี้ ได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เปิดมุมมองต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าให้กว้างขึ้น
1.ประเทศพม่ากำลังจะพัฒนาแล้ว มี internet เล่นทั่วถึงทั้งสนามบิน และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง ชเวดากอง และสถานที่รอรถก่อนขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น free wifi พอมองกลับมาที่ประเทศตัวเอง คิดไม่ออกเลยว่า ที่ไหนมี free wifi ให้เล่นบ้าง ขนาดสนามบินยังไม่มีเลย ของชเวดากอง เป็นของบริษัทอินเทอร์เน็ตบริจาคให้ฟรีอีกด้วย
2.คนพม่าส่วนใหญ่ มี smart phone ใช้กันแล้ว และส่วนใหญ่ก็มานั่งเล่นกันในวัดเนี่ยแหละ
3.เที่ยววัดพม่า ส่วนใหญ่ก้มีแต่คนพม่าเต็มไปหมด มานั่งสมาธิบ้าง มานั่งปิคนิคกินข้าวกันบ้าง ส่วนคนไทย ว่างๆ ก็ไปห้าง ไม่เห็นจะมีไปวัด แล้วเรียกตัวเองว่าเป็นเมืองพุทธ ในวัดมีแต่ฝรั่งทั้งนั้น
4.เหตุผลของข้อที่แล้ว อาจจะเพราะ พม่ายังไม่ค่อยมีห้าง ซึ่งตอนนี้ที่เห็นก็เริ่มมีการลงทุน จากสิงคโปร์ และมาเลเซียบ้างแล้ว ส่วนห้างที่มีอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพม่า เดินมากกว่า
5.อาแมวเล่าว่าโรงพยาบาลในพม่า สกปรกมาก ขนาดเป็นรพ.ใหญ่ คนรวยในพม่าส่วนใหญ่จะมารักษาในกรุงเทพแทน
6.เด็กบนเขา ชื่อ ณเดช มาริโอ ส่วนผู้หญิง ชื่อ ญาญ่า เป็นส่วนใหญ่ และพูดไทยเก่งมาก น้องโกโก้เล่าให้ฟังว่า เค้าจะไปเรียนภาษาไทยในเมืองยางทอน แล้วตอนเย็นก็กลับขึ้นเขา มาทำงานหาเงิน หม่าม้าก็ถามว่า พูดไทยเก่งแบบนี้ ก็ไปทำงานที่เมืองไทยได้เลยนะ น้องโกโก้ก็บอกว่า อายุยังไม่ถึง เลยไปไม่ได้ เป็นเด็กที่น่าสงสารนิดนึง เค้าเป็นลูกครึ่งไทย-พม่า แม่เป็นไทย พ่อเป็นพม่า แม่ทิ้งไปตั้งแต่เขายังจำความไม่ได้ อยู่กับพ่อตลอด ยังดีที่ได้ไปเรียนหนังสือ
7.คนพม่าส่วนใหญ่ พูดไทยได้ พอถามว่าทำไมพูดไทยเก่งจัง คำตอบคือ เคยทำงานที่เมืองไทย ไม่ก็เป็นไทยใหญ่ อยู่แถวแม่สาย ยิ่งพ่อค้าแม่ค้าพูดไทยได้ จะได้เปรียบมาก เพราะคนไทยมาเที่ยวบ่อยมาก
8.อาหารพม่า ไม่สามารถกินได้ คนไทยที่ไปส่วนใหญ่ก็จะกินอาหารไทย แต่รสชาติก็ไม่ไทย ไม่อร่อยอยู่ดี